การเพิ่มขนาดยางเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้เจ้าของรถสามารถกำหนดสภาพรถของตนเองได้ โดยใช้ยางที่มีอัตราส่วนระหว่างความกว้าง และขอบที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวขึ้น
สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเพิ่มขนาดยางคือ:
1. ความสามารถในการบรรทุก จะต้องเท่ากับหรือมากกว่าการติดตั้งเดิม
2. ความดันลมยางรถ ห้ามใช้แรงดันยางรถต่ำกว่าแรงดันดั้งเดิมตามคำแนะนำของผู้ผลิต
แรงดันระหว่างล้อหน้าและหลังควรสัมพันธ์กัน
ดูข้อมูลด้านล่างเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่นการติดตั้งยางรับน้ำหนักสูง(ยางเสริมกำลัง) แทนยางที่รับน้ำหนักแบบมาตรฐาน
3. อัตราความเร็ว จะต้องเท่ากับหรือมากกว่ายางรถเดิม
4. รอบของการหมุนของล้อ ควรใกล้เคียงกับค่าเดิมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
5. ขอบล้อและยางรถ ควรใช้ขนาดและความกว้างของขอบล้อที่ผ่านมารตฐานอุตสาหรรมเท่านั้น
6.การนำส่วนประกอบหลักและโครงรถยนต์ออก ควรมั่นใจว่าการนำส่วนประกอบหลักและโครงรถยนต์ออก เป็นไปตามเงื่อนไขทั้งหมดของการซ่อมบำรุง
ซึ่งสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านยางรถได้เสมอ (ผู้ผลิตยางรถ และตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ)
วาล์วประเภทสแนปอินต้องเปลี่ยนพร้อมยางทุกครั้ง และควรปิดฝาวาล์วให้ดีเพื่อลดสิ่งปลอมปนบนแก่นวาล์ว ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียลม
ห้ามเพิ่มน้ำหนักบนช่องเปิดและฝาวาล์ว
หากเป็นวาล์วประเภทที่มีแหวนยางเพื่อช่วยในการ
ผนึกต้องเปลี่ยนแหวนยางทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยางรถ ตัววาล์วควรหมุนด้วยแรงที่เหมาะสม (แรงหมุนของวาล์ว : ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตวาล์ว) และวงแหวนที่ใช้ควรปิดด้วยแรงอัด
หากความเร็วมากกว่า 210 กม./ชม. สามารถใช้วาล์วเหล็ก(ที่ทำให้ติดแน่นเข้าด้วยกัน) หรือตัวเสริมวาล์วเพื่อลดการเบี่ยงเบนของวาล์วโดยไม่เกิน 25 องศา
ล้อรถที่ไม่มีหรือสูญเสียเสถียรภาพการทรงตัวโดยทั่วไปจะก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนส่งผลให้ขับขี่ไม่สะดวกสบาย และทำให้คานและพวงมาลัย รวมทั้งชิ้นส่วนที่เคลื่อที่ได้และยางรถสึกหรอก่อนเวลาอันควร
ในการเปลี่ยนถ่ายยางใหม่ควรปรับศูนย์ยางให้ถูกต้องสมดุล เพื่อขจัดการสั่นสะเทือนและหลีกเลี่ยงการสึกหรอที่มีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของล้อหรือส่วนประกอบรถยนต์อื่นๆที่เคลื่อนไหวได้